พระเสตังคมณี (พระแก้วขาว) พระคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ (องค์จำลอง)
แชร์อัพโหลดเมื่อ 2011-04-01 17:28 (533 KB)
File name : 1_1301650084rG7D.jpg
File type : JPG
Format : image/jpeg
Size : 546083
Date : 2011:01:30 11:29:23
Manufacture : Panasonic
Model : DMC-FZ20
X Resolution : 72/1Inches
Y Resolution : 72/1Inches
Software : PhotoScape
YCbCr : the datum point
Exif version : 0220
FlashPix version : Ver. 1.00
Digitize : 2011:01:30 11:29:23
Height : 900
Width : 675
Aperture Number : f/2.8
Max Aperture : F30/10
Exposure Time : 10/3200
F-Number : 28/10
Metering Mode : Evaluating Metering
Light Source : Unknown
Flash Light : Unknow
Exposure Mode : Auto
White Balance : Auto
Exposure Program : Image Mode
Exposure Bias Value : 0/100EV
ISO speed rating : 80
Components Configuration : YCbCr
Compress ratio : 4/1Bits/Pixel
Focus Distance : m
Focus : 399/10mm
35mm focus length : mm
Color Space : sRGB
Exif Length : 1920
Exif Width : 2560
File Source : unknown
Scene Type : unknown
และอำนวยความ สุขสวัสดิ์มงคลแก่ผู้ที่เคารพสักการะและได้ ปรากฏว่าในอดีตกาลเป็นพระพุทธรูป สำหรับบูชา
ประจำพระองค์ของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญชัย และพระเจ้าเม็งรายมหาราช
(หรือพระเจ้ามังราย) ปฐมวงศ์เม็งราย ผู้สถาปนาอาณาจักรล้านนาไทยและกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญชัย
และนครเชียงใหม่ ในยุคต่อๆ มา ก็นับถือเป็นพระพุทธรูปบูชาประจำพระองค์ทั้งสิ้น ในตำนานได้กล่าวถึง
การสร้างไว้ว่าเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานล่วงแล้วได้ 700 ปี ในวันเพ็ญเดือน 7 พระสุเทวฤๅษี
ได้เอาดอกจำปา 5 ดอก ขึ้น ไปบูชาพระจุฬามณียังดาวดึงษ์สวรรค์ ได้พบปะสนทนาด้วยพระอินทร์
พระอินทร์จึงบอกกล่าวแก่สุเทวฤๅษีว่า ปีนี้ในเดือนวิสาขะเพ็ญที่ลวะรัฏฐะ จะสร้างพระพุทธปฏิมากรด้วยแก้วขาว
ครั้งสุเทวฤๅษีกลับจากดาวดึงษ์เทวโลกแล้วจึงไปสู่เมืองละโว้ ขณะนั้น พระยารามราชเจ้าเมืองละโว้
กับพระกัสสปเถระเจ้าปรารภการที่จะสร้างพระแก้ว ซึ่งพระอรหันต์ไปได้แก้วขาวบริสุทธิ์บุษยรัตน์มาจาก
จันทเทวบุตร แล้วขอพระวิศณุกรรมมาเนรมิต สำเร็จรูปเป็นองค์พระพุทธปฏิมากรสุเทวฤๅษีและฤๅษีองค์อื่นๆ
ก็ได้ประชุมช่วยในการสร้างองค์พระด้วย ครั้นสำเร็จแล้วก็บรรจุพระบรมธาตุ 4 องค์ ไว้ในพระโมลี(กระหม่อม)
พระนลาต(หน้าผาก) พระอุระ (หน้าอก) พระโอษฐ์(ปาก) รวม 4 แห่งเมื่อสร้างเสร็จแล้ว พระแก้วขาว
ก็ได้ประดิษฐานอยู่ที่เมืองละโว้สืบมาเป็นเวลานาน ถึงสมัยพระฤๅษีสร้างนครหริภุญชัยขึ้นแล้ว
ใช้ให้ควิยะอำมาตย์ ไปเชิญพระนางจามเทวี ราชธิดาของพระเจ้ากรุงละโว้มาครองเมืองหริภุญชัย
พระนางจึงขออนุญาตจากพระราชบิดานิมนต์พระภิกษุสงฆ์สามเณร และพระเสตังคมณี(พระแก้วขาว)
มาเป็นพระพุทธรูปบูชาประจำพระองค์ พระแก้วจึงได้ประดิษฐาน ณ นครลำพูนแต่นั้นมาเป็นเวลา
นานหลายร้อยปี บรรดากษัตริย์ที่ครองเมืองหริภุญชัย(ลำพูน) ทั้งวงศ์เดียวกับพระนางจามเทวีและต่างวงศ์
ต่างได้เคารพบูชาเป็นประจำองค์มาทุกวงศ์ และได้สร้างหอประดิษฐานไว้ในพระราชวัง พระเสตังคมณี
ประดิษฐานอยู่ ณ เมืองลำพูน ตลอดมาจนกระทั่งรัชสมัยของพระยายีบาเป็นกษัตริย์ครองเมือง
ในครั้งนั้นพระเจ้าเม็งรายซึ่งเป็นเจ้าครองนครเงินยวง(เชียงแสน) ได้ยกกองทัพไปปราบบ้านเล็กเมืองน้อยต่างๆ
ที่ยังแข็งเมืองอยู่ให้เข้ารวมอยู่ในอำนาจของพระองค์จนหมดสิ้นแล้ว แต่นครหริภุญชัยในครั้งนั้น
มีกำลังเข้มแข็งมาก พระองค์จึงคิดกลอุบายให้ขุนอ้ายฟ้า ราชวัลลภคนสนิทไปทำการจารกรรมนานถึง 7 ปี
ขุนอ้ายฟ้าเห็นได้โอกาสแล้วจึงส่งข่าวไปให้พระเจ้าเม็งรายให้ยกกองทัพมาตีเมืองหริภุญชัยโดยด่วน
พระเจ้าเม็งรายยกกองทัพมาตีเมืองหริภุญชัยในปีพุทธศักราช 1824 ชาวเมืองที่ไม่ยอมทิ้งเมือง
เข้าต่อสู้อย่างเข้มแข็งดุเดือด กองทัพเม็งรายต้องใช้ธนูไฟเพลิงยิงเข้าไปทำให้เกิดเพลิงไหม้ทั้งเมือง
ในที่สุดก็พ่ายแพ้แก่กองทัพพระเจ้าเม็งราย
เมื่อยกเข้าเมืองได้แล้ว พระเจ้าเม็งรายจึงเสด็จออกตรวจดูความเสียหาย สิ่งที่ทำให้พระองค์
ทรงประหลาดพระทัยที่สุดคือ หอพระซึ่งอยู่ในบริเวณพระราชวังของพระยายีบา หาได้ถูกเพลิงไหม้
แต่บริเวณรอบๆ นั้นถูกเพลิงเผาผลาญพินาศหมด พระองค์จึงเข้าไปทอดพระเนตรดู เห็นพระแก้วขาวสถิตอยู่ ณ ที่นั้น
ก็เกิดมีพระราชศรัทธาปสาทะเป็นอันมากจึงอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ ที่ประทับของพระองค์
ทรงเคารพสักการบูชาเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์แต่นั้นมา ต่อเมื่อพระองค์มาสร้างนครเชียงใหม่เป็นราชธานี
เมื่อปีพุทธศักราช 1839 ได้อัญเชิญพระแก้วขาวมาประดิษฐานในพระราชวังจนตลอดรัชกาล
แม้ในเวลาเสด็จออกศึกก็ทรงนิมนต์พระแก้วขาวไปด้วยทุกครั้ง พระองค์มิได้ประมาทในพระแก้วขาวเลย
เมื่อพระองค์สวรรคตแล้ว พระแก้วขาวก็ยังคงประดิษฐานอยู่ในเมืองเชียงใหม่ตลอดมาจนกระทั่งถึง
รัชกาลของพระเจ้าติโลกราช รัชกาลที่ 11 แห่งราชวงศ์เม็งราย พระองค์ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง
ได้ทำนุบำรุงการพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่ายุคใดๆ ทั้งสิ้น พระองค์โปรดให้หมื่นด้ามพร้าคต
ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างถาวรวัตถุในวัดวาต่างๆ และสร้างหอพระแก้วมรกตและพระแก้วขาวไว้ใน
พระอารามราชกุฏาคารเจดีย์(คือเจดีย์หลวง) ในปีพุทธศักราช 2022 ในยุคนี้พระพุทธรูปสำคัญหลายองค์
ได้มาประดิษฐานในนครเชียงใหม่พระแก้วขาวได้ประดิษฐานอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง ในสมัยของพระเจ้าติโลกราช
มาตราบถึงสมัยของพระยอดเชียงราย ราชนัดดา ในสมัยนี้มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพระแก้วขาวคือ
ในครั้งนั้นมีราชบุตรพระยาเมืองใต้ชื่อสุริยะวังสะบวชเป็นภิกษุขึ้นมาจำพรรษาอยู่วัดเวฬุวัน(กู่เต้า)
ในระหว่างปีพ.ศ. 2030 - 2049 ได้มารักใคร่ชอบพอกับนางท้าวเอื้อยหอขวาง ราชธิดาของพระเจ้าติโลกราช
เป็นอย่างยิ่ง สุริยะวังสะภิกขุมีความประสงค์อยากได้พระแก้วขาว จึงรบเร้าขอให้นางท้าวเอื้อยหอขวาง
จัดการให้ นางท้าวเอื้อยฯจึงทำกลอุบายว่าป่วยไข้ ขออาราธนาพระแก้วขาวมาสักการบูชาในที่อยู่ของตน
เพื่อหายป่วยไข้ ครั้นนานหลายวันเข้า พันจุฬาผู้รักษาหอพระจึงมาขอเอาพระแก้วคืน นางท้าวเอื้อยฯก็ให้
ทองคำพันหนึ่งเป็นสินบนปิดปาก แล้วนางจึงเอาพระแก้วขาวใส่ไว้ในสถูปแล้วใส่ถุงคลุมมิดชิดดีแล้ว
ใช้ให้อ้ายกอน ทาสชายนำไปถวายแก่สุริยะวังสะภิกขุ จากนั้นสุริยะวังสะภิกขุจึงเอาไม้เดื่อมาแกะเป็นองค์
แล้วเอาพระแก้วขาวใส่ไว้ภายในแล้วก็พาหนีไปเมืองใต้เสียต่อมาในปีพ.ศ. 2035 พระยอดเชียงรายราช
ให้ทรงสร้างพระอารามขึ้นในทิศตะวันตกเฉียงใต้เมือง ให้ชื่อว่าวัดตะโปทาราม(วัดรำพึง) ด้วยมีพระประสงค์
จะเอาพระแก้วขาวไปประดิษฐานไว้ที่นั้น เมื่อทราบข่าวว่าพระแก้วหายไป จึงสืบสวนได้ความจากอ้ายกอนว่า
นางท้าวเอื้อยหอขวางได้ใช้ให้ตนนำไปถวายแก่สุริยะวังสะภิกขุ และได้นำพระหนีไปจากเมืองแล้ว
พระยอดเชียงรายได้ใช้ราชทูตเชิญเครื่องราชบรรณาการและราชสาส์น ไปถวายพระเจ้ากรุงศรีอยุธยา
เพื่อขอพระแก้วคืน พระเจ้ากรุงศรีอยุธยาตอบพระสาส์นมาว่า สืบหาก็ไม่ได้ความ และหาที่ไหนก็ไม่พบ
พระยอดเชียงรายราชขัดพระทัย จึงยกกองทัพไปยังกรุงศรีอยุธยา อยู่ได้เดือนหนึ่งจึงได้พระแก้วขาวคืนแล้ว
จึงเลิกทัพกลับมา พระแก้วขาวจึงได้ประดิษฐาน ณ เมืองเชียงใหม่ตามเดิม ในปัจจุบันนี้ พระแก้วขาว(เสตังคมณี)
ประดิษฐาน ณ วัดเชียงมั่น เมืองเชียงใหม่ เพื่อเป็นมิ่งขวัญของชาวเชียงใหม่เป็นปูชนียวัตถุชิ้นสำคัญ
ของชาวลานนาไทยสืบต่อมา
http://watchiangman.net78.net/crystal.html