หากเกิดอุบัติเหตุขับรถตกน้ำควรมีสติ แล้ว
2015-10-19 11:33 |
เกร็ดความรู้ดีๆ จาก ประกันภัยรถยนต์ โปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ
เบื่อซ่อม อยากขาย ไว้ใจ รถยนต์มือสอง ตลาดรถ รับฝากขาย รถมือสอง เปรียบเทียบรถยนต์ ฟรี!!
วันนี้ก็เอาเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้กับผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนมาฝาก เชื่อว่าคนที่ได้อ่านบทความนี้จะนึกถึงเมื่อมันเกิดเหตุการณ์จริงหากขับรถตกน้ำแน่ๆ คงตกใจจนไม่ได้สติ แต่เมื่อเรียกสติกลับคืนมาได้ให้คิดไว้เสมอว่า เรายังมีเวลาพอที่จะทำอะไรหรือแก้ไขได้ เพราะขณะที่รถยนต์ตกน้ำ (รถยนต์ส่วนบุคคลสมัยนี้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มักปิดกระจกขณะขับขี่) รถจะไม่จมลงในทันทีแต่จะค่อย ๆ จมลงอย่างช้า ๆ อย่างต่อเนื่องประมาณ 17 ? 20 วินาที
ในนาทีวิกฤตนี้ ควรตั้งสติให้ดี และสิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ
1. ปลด SAFETY BELT ออกทุกๆคน รวมทั้งผู้โดยสารด้วย
2. อย่าออกแรงใดๆ เพื่อสงวนการใช้อากาศหายใจซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนจำกัด
3. ให้ยกส่วนศีรษะให้สูงเหนือระดับน้ำที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในรถ
4. ปลดล็อกประตูรถทุกบาน
5. หมุนกระจกให้น้ำไหลเข้าในรถเพื่อปรับความดันในรถและนอกรถให้เท่ากัน มิฉะนั้นท่านจะเปิดประตูรถไม่ออก เพราะน้ำจากภายนอกตัวรถจะดันประตูไว้
6. เมื่อความดันใกล้เคียงกันแล้วให้ผลักบานประตูออกให้กว้างสุด แล้วท่านก็ออกจากห้องโดยสารของรถได้
7. จากนั้นท่านอาจจะปล่อยตัวให้ลอยขึ้นเหนือน้ำตามธรรมชาติ หรือจะว่ายน้ำขึ้นมาก็ได้
ทั้งนี้หากเป็นรถที่ใช้ระบบไฟฟ้า การทำงานจะขัดข้องจนไม่สามารถเปิดกระจกได้ ให้ใช้ค้อนเหล็ก หรือของแข็งที่มีอยู่ในรถทุบกระจกด้านข้างให้แตก ไม่ควรทุบกระจกหน้าหรือหลัง เพราะเป็นกระจกนิรภัยจะแตกยากกว่า เพราะฉนั้นคนที่ขัรถระบบไฟฟ้าควรจะมีค้อนหรืออะไรหนักๆ ไว้ในรถเสมอ
และหากในกรณีนี้หากน้ำลึกมากๆ อาจจะมองไม่เห็นว่าทิศใดเหนือน้ำ ทิศใดใต้น้ำเพราะว่า มืดไปหมด ไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำ เพราะอาจจะว่ายไปในทิศทางที่ไม่ขึ้นเหนือน้ำ กรณีเช่นนี้ควรปล่อยตัวให้ลอยขึ้นตามธรรมชาติ หรือลองเป่าปากดูว่าฟองอากาศลอยไปในทิศทางใด ให้ว่ายน้ำไปในทิศทางที่ฟองอากาศลอยไป ก็จะไม่มีอาการหลงน้ำ นอกจากนั้นก่อนออกจากรถหากท่านมีผู้โดยสารที่เป็นเด็กๆ อาจจะหนีบเด็กๆ นั้นออกมากับท่านได้อีกหนึ่งคน ดังนั้นหากท่านปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้ ก็จะช่วยให้ชีวิตของท่านปลอดภัยได้ในยามคับขัน
ที่มา news.unseencar
ที่มา news.unseencar
ความเห็น