เข้าระบบ

ชื่อผู้ใช้

รหัสผ่าน

  ล ง ท ะ เ บี ย น  

puntanaruk

puntanaruk的บล๊อก

puntanaruk的主頁 | ดูทั้งหมด

เจ้าพ่อกู่ช้าง

2009-11-23 10:50
 
 
เจ้าพ่อกู่ช้าง
 

 

ทุกปีเมื่อถึงวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ประชาชนที่เคารพนับถือเจ้าพ่อกู่ช้างจะจัดงานรดน้ำดำหัวและบวงสรวงเพื่อขอสูมาลาโทษและขอให้เจ้าพ่อกู่ช้างได้ปกป้องคุ้มครองรักษา ปราศจากโรคภัยและภยันตรายใดๆ อยู่เสมอ กู่ช้าง หรือ ศาลเจ้าพ่อกู่ช้าง โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ชาวลำพูนให้ความเคารพสักการะ ด้วยความเชื่อที่ว่า "กู่ช้าง" เป็นเจดีย์บรรจุซากช้างพลายคู่บารมีของพระนางจามเทวีที่มีฤทธิ์ในการทำศึก ดังนั้นเมื่อมีเหตุต้องเดินทางไกลชาวบ้านจึงมักมากราบไหว้ขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ช่วยปกป้องคุ้มครอง กระทั่งปัจจุบันกู่ช้างได้กลายมาเป็นที่พึ่งทางใจของชาวลำพูนในการบนบานช่วยให้สอบได้ หรือแม้แต่ขอให้สมหวังในสิ่งที่คิดไว้ กู่ช้าง ตั้งอยู่ห่างจากวัดไก่แก้วไปทางทิศตะวันออกประมาณ 200 เมตร ลักษณะของกู่ช้างเป็นสถูปที่มีรูปทรงแปลกแตกต่างไปจากสถูปที่พบเห็นโดยทั่วไปในภาคเหนือ เพราะเป็นสถูปทรงกลมตั้งอยู่บนฐาน 3 ชั้น องค์สถูปมีลักษณะเป็นทรงกระบอกปลายมน (ทรงลอมฟาง) เหนือสถูปขึ้นไปมีแท่นคล้ายบันลังก์ของเจดีย์ ตามประวัติและความเป็นมากล่าวว่า เมื่อสมัยของพระนางจามเทวีพระองค์ทรงมีช้างคู่บารมีชื่อ "ผู้ก่ำงาเขียว" เป็นช้างที่มีฤทธิเดชมาก เมื่อช้างเชือกนี้หันหน้าไปทางศัตรูก็จะทำให้ศัตรูอ่อนกำลังลงทันที ช้างผู้ก่ำงาเขียวเชือกนี้ มีบทบาทในฐานะช้างศึกของเจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ เมื่อครั้งทรงออกศึกสงครามต้านทัพของหลวงวิรังคะ จนกระทั่งช้างเชือกนี้ล้มลงซึ่งตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 เหนือ เจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศจึงได้นำสรีระของช้างใส่ลงไปในแพไหลล่องไปตามลำน้ำกวง แต่พระองค์ก็ได้ทรงเปลี่ยนพระทัยที่จะนำสรีระของช้างกลับขึ้นมาฝังบนฝั่ง เพราะว่าช้างเชือกนี้เป็นช้างศักดิ์สิทธิ์คู่บุญบารมีของพระนางจามเทวี หากว่าปล่อยให้ล่องลงไปกับแพแล้ว จะทำให้ประชาชนที่อยู่ทางทิศใต้ลงไปได้รับความเดือดร้อนจึงได้อัญเชิญร่างของช้างลากกลับขึ้นมายังบริเวณท่าน้ำวัดไก่แก้ว แล้วลากมาฝังไว้ที่บริเวณกู่ช้างในปัจจุบัน หลังจากนั้นจึงได้ลงมือสร้างสถูปเป็นเวลาถึง 8 เดือนจึงแล้วเสร็จ ในการฝังช้างผู้ก่ำงาเขียวจะให้ซากของช้างหันหน้าขึ้นไปบนฟ้า ส่วนงาทั้งสองข้างของช้างถูกนำไปบรรจุไว้ในสถูปที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิของพระนางจามเทวีภายในสุวรรณจังโกฏหรือกู่กุด หลักฐานทางด้านโบราณคดีที่พบและรูปแบบของเจดีย์ ไม่ปรากฏร่องรอยของศิลปกรรมในสมัยหริภุญชัย ดังนั้นนักโบราณคดีจึงสันนิษฐานว่า เจดีย์กู่ช้าง เป็นเจดีย์ที่สร้างในสมัยล้านนาประมาณต้นพุทธศตวรรษที่ 21 ขณะเดียวกันรูปทรงขององค์เจดีย์นั้นนักโบราณคดีต่างยอมรับว่ามีลักษณะรูปทรงที่คล้ายกับเจดีย์บอบอคยีของพม่าสมัยโบราณในอาณาจักรศรีเกษตร (อาณาจักรพยู) นักโบราณคดี ยังมองว่าในสมัยของพระเจ้าติโลกราช ถือได้ว่าเป็นยุคที่มีการจำลองเอารูปแบบของเจดีย์ต่างๆ มาสร้างเป็นจำนวนมาก เช่น การนำเอารูปทรงของเจดีย์พุทธคยาในประเทศอินเดียมาสร้างที่วัดเจ็ดยอด และอาจเป็นไปได้ว่า เจดีย์กู่ช้างแห่งนี้ก็คงสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าติโลกราชเช่นกัน โดยเลือกเอารูปทรงของเจดีย์บอบอคยีจากรัฐศรีเกษตรในพม่ามาเป็นต้นแบบ อย่างไรก็ตาม แม้ว่า เจดีย์กู่ช้าง จะสร้างในสมัยใด รูปทรงเป็นแบบไหน ไม่ใคร่มีความสำคัญมากนักต่อชาวเมืองลำพูน ทว่าด้วยความสำคัญในฐานะของสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและศรัทธาอันแรงกล้าต่างหาก ที่ทำให้ชาวลำพูนพากันไปกราบสักการะอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ทุกปีเมื่อถึงวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ประชาชนที่เคารพนับถือเจ้าพ่อกู่ช้างจะจัดงานรดน้ำดำหัวและบวงสรวงเพื่อขอสูมาลาโทษและขอให้เจ้าพ่อกู่ช้างได้ปกป้องคุ้มครองรักษา ปราศจากโรคภัยและภยันตรายใดๆ อยู่เสมอ
เหรียญเจ้าพ่อกู่ช้าง รุ่นแรก
 

 

วัตถุประสงค์ของการจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ก็เพื่อหาทุนทรัพย์ในการบูรณะ ศาลเจ้าพ่อกู่ช้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ของชาวลำพูน ทำพิธีปลุกเสกในบริเวณกู่ช้างโดยเกจิชื่อดังของภาคเหนือในยุคนั้น
ครูบาอินตา วัดวังทอง พรรษา 100 ปี
เป็นหนึ่งในผู้ปลุกเสกเหรียญกู่ช้างอันโด่งดังของจ.ลำพูน วันที่ทำพิธีบริเวณรอบๆกู่ช้างฝนตกหนัก แต่ในบริเวณงานเจ้าพ่อกู่ช้างไม่ฝนตกเลยครับ แค่นี้ยังไม่พอครับพอรุ่งเช้ามีชาวบ้านพบเจอรอยเท้าช้างอยู่รอบๆกู่เต็มไปหมด ผมพ่อเลี้ยงหนุ่มเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นครับ
ความหมายของคำว่าปู้ก่ำ งาเขียว ในภาษากลางก็คือ ช้างตัวผู้ผิวสีดำเข้ม และมีงาสีเขียว อันว่าช้างเชือกนี้เป็นช้างคู่บารมีของกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญไชยในอดีต คือพระเจ้ามหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศ ผู้เป็นพระโอรสของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตรีย์แห่งนครหริภุญไชย ช้างปู้ก่ำ งาเขียว เป็นช้างที่มีอิทธิฤทธิ์ นำพากษัตริย์ออกรบจนชนะข้าศึกศัตรูทุกครั้ง มีส่วนทำให้นครหริภุญไชยเป็น มหานครอันยิ่งใหญ่ในสมัยนั้น และเมื่อสิ้นอายุไขลง ร่างก็ถูกนำไปฝังที่บ้านกิ่งแก้ว และพระเจ้ามหันตยศได้สร้างกู่ (เจดีย์) ครอบไว้อีกทีเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ์
 
เหรียญเจ้าพ่อกู่ช้าง รุ่น 3 สร้างหอชัย ( รุ่นน้ำมนต์เดือด )

 

 

เหรียญรุ่นสาม หรือรุ่นสร้างหอชัย หรืออีกชื่อหนึ่งซึ่งผมได้คุยกับพ่อ(ร่างทรงปู่กู่ช้าง ) มาเกี่ยวกับการปลุกเสกเหรียญเจ้าพ่อกู่ช้าง

รุ่นนี้มีอีกชื่อเรียกว่า ? รุ่นน้ำมนต์เดือด ?  ที่มาจากคำว่าน้ำมนต์เดือดคือวันที่ทำการปลุกเสกหม้อน้ำมนต์ในพิธีได้เดือดขึ้นมาเหมือนหม้อน้ำที่ตั้งไฟร้อนจนเดือดปุ๊ดๆๆ และยังไม่พอบริเวณรอบๆงานปลุกเสกนั้นได้มีรถดับเพลิงมาจอดแล้วอยู่ดีๆก็มีเสียงช้างร้องออกมาสองครั้ง ซึ่งในรถก็ไม่มีคนอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด และเกิดอภินิหารบ่อยมากครับ ผมพ่อลี้ยงหนุ่ม เคารพและศรัทธาเจ้าพ่อกู่ช้างมากครับ ผมจะชอบเข้าไปไหว้สักการะท่านบ่อยๆครับ 

เหรียญเจ้าพ่อกู่ช้าง รุ่น สร้างหอชัย ผมบูชามาหลายเหรียญเลยครับ เป็นเหรียญเนื้อทองแดงครับ สวยมากครับกริ๊ปๆ


ปัจจุบันถือเป็น 1 ใน 3 ของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ประจำจังหวัด ( มีพระธาตุหริภุญไชย และอนุสาวรีย์เจ้าแม่จามเทวี )

หากพบเห็นเหรียญแบบนี้ขอแนะนำให้เก็บได้เลยครับ เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ดีทีเดียวครับ
 

อภินิหาร เจ้าพ่อกู่ช้าง

               1. เรื่องช้างบริวารของเจ้าพ่อกู่ช้าง ได้ล้มกระจัดกระจายไปทั่วหอชัย เรื่องนี้ผมพ่อเลี้ยงหนุ่มได้ทราบจากร่างทรง (ม้าขี่) ของเจ้าพ่อว่ามีอยู่เช้าวันหนึ่งได้มีคนมาวิ่งออกกำลังกาย และได้หันไปเจอภาพที่ช้างบริวารของเจ้าพ่อล้มระเนระนาดทั่วหอชัย ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการแบบนี้ได้มีคนเข้ามานำเอาของมาถวายท่านโดยได้ขึ้นไปบนชั่นที่ช้างบริวารอยู่ ซึ่งอาจทำให้เจ้าพ่อกู่ช้าง และบริวารช้างไม่พอใจจึงแสดงปาฏิหาริย์ให้คนได้เห็นเพื่อจะได้ไม่ทำแบบนั้นอีก ช้างบริวารตัวใหญ่ สามคนยกยังไม่ไหวกันเลยครับลองนึกดูเอาเองครับ หรือดูตามรูปภาพที่ผมได้ถ่ายมาครับ และอีกเรื่องที่คล้ายๆกันได้เกิดเหตุไฟไหม้หอชัย สาเหตุมาจากไฟกระพริบที่มีคนนำมาถวายแล้วเปิดทิ้งไว้ทั้งวันจนทำให้สายไฟร้อนแล้วเกิดประกายไฟลุกขึ้นไหม้หอชัย แต่สิ่งที่แปลกประหลาดก็คือ ข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นของเจ้าพ่อกู่ช้าง และรูปปั่นช้างบริวารของท่านไม่มีรอยไฟไหม้แม้แต่นิดเดียวเลยครับ

 

 2. เรื่องหินศิลาที่นำมาบูรณะบริเวณกู่ช้าง ได้มีช่างที่นำหินศิลามาจากบ้านปราง เพื่อนำมาบูรณะจำนวนมากมายหลายร้อยก้อน แต่มีอยู่หนึ่งก้อนที่ทีมช่างหลายคนยกหินก้อนนั้นไม่ขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังจากนั้นเจ้าพ่อกู่ช้างได้สื่อผ่านร่างทรงของท่านโดยบอกว่าหินก้อนนั้นเป็นของท่านเอง ซึ่งสังเกตุดีๆแล้วหินก้อนนั้นจะมีรูปคล้ายช้าง โดยผมพ่อเลี้ยงหนุ่มได้ขอสัมผัสหินก้อนนั้นจากพ่อร่างทรง ซึ่งท่านก็อนุญาตให้ผมลองจับดูครับ เป็นบุญบารมีของท่านเจ้าพ่อกู่ช้างจริงๆครับ หลังจากที่เจ้าพ่อสื่อผ่านร่างทรง พ่อร่างทรงจึงเดินไปที่หินศิลาก้อนนั้นอยู่แล้วบอกช่างไปว่า" ช้างทั้งตัว กับคนไม่กี่คนมันจะยกไหวได้ยังไง " เสร็จแล้วพ่อจึงยกหินก้อนนั้นมาเก็บไว้ที่หอชัย โดยที่พ่อเขายกเพียงคนเดียวก็ขึ้นครับ ลองดูตามภาพที่ผมถ่ายมาครับ

 

ประสบการณ์จากผู้ที่แขวนเหรียญเจ้าพ่อกู่ช้าง โดยพ่อเลี้ยงหนุ่ม บ้านหนองเป็ด

ประสบการณ์ทุกด้าน แคล้วคลาด โชคดี มีชัยชนะดั่งเจ้าพ่อกู่ช้าง

1. เจ้าพ่อกู่ช้างลำพูนท่านศักดิ์สิทธิ์จิงๆวันๆมีแต่คนเอากล้วยอ้อยไปแก้บนไม่ขาดสาย พ่อเลี้ยงหนุ่ม บ้านหนองเป็ด จังหวัดลำพูน ก็ไปไหว้ท่านอยู่บ่อยครั้งเช่นกันครับท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆครับ ที่ฮือฮามากที่สุดคือคนแขวนเหรียญท่านขับมอไซค์บนถนนสายซุปเปอร์แล้วโดนรถสิบล้อชน เรื่องนี้พ่อเลี้ยงหนุ่มได้สอบถามจากคนเฒ่าคนแก่ในจังหวัดลำพูนมาครับว่าชนเสียงดังสนั่นจนใครๆก็คิดว่าป็นรถใหญ่ๆชนกัน ถามคนขับสิบล้อตกใจปากคอสั่นบอกว่าขณะที่กำลังชนรถมอไซค์ด้วยความเร็วที่เบรคไม่อยู่คิดว่าต้องเหยีบเละแน่ๆกลับเห็นช้างตัวใหญ่มายืนขวางที่ขนเสียงดังคือชนช้างจนรถหยุดอยู่กับที่แต่พอลงมาดูไม่มีช้างเลย เรื่องนี้พ่อเลี้ยงหนุ่ม บ้านหนองเป็ดยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงครับ
 
2. เรื่องนี้พ่อเลี้ยงหนุ่มรู้จักกับพ่อค้าท่านหนึ่งที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆ จึงได้สอบถามประสบการณ์ที่พบเจอ พ่อค้าคนนี้ได้แขวนเหรียญเจ้าพ่อกู่ช้างติดตัวไปด้วยเสมอวันนั้นได้จอดรถนอนข้างถนน เนื่องจากอ่อนเพลียจากการขับรถไกล โดยมีเพื่อนร่วมกลุ่มเดียวกันมาก็จอดนอนต่อๆกันไป เพียงไม่กี่นาทีเพื่อนๆของเขาที่อยู่ในรถคันที่จอดหลังรถพ่อค้าที่แขวนเหรียญเจ้าพ่อกู่ช้าง ก็ได้เห็นเงาดำๆลักษณะคล้ายๆช้างมาเดินรอบรถของพ่อค้าคนนั้นอยู่สักพัก พอรถกออกเดินทางต่อจนรุ่งเช้าแล้วจอดพักเพื่อนๆเขาก็ได้เล่าให้ฟัง
จึงได้รู้ว่าพ่อค้าคนนั้นได้แขวนเหรียญเจ้าพ่อกู่ช้าง อาจเป็นไปได้ที่ว่าช้างที่เขาเห็นนั้นคือ เจ้าพ่อกู่ช้าง ที่ท่านออกมาปกป้องรักษาคุ้มครองรถพ่อค้านั้นเอง พ่อเลี้ยงหนุ่มจึงบูชาเหรียญเจ้าพ่อกู่ช้างรุ่นหนึ่งเก็บไว้ครับ
 
3. เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนของพ่อเลี้ยงหนุ่มเองครับ มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนของพ่อเลี้ยงหนุ่มได้ขับรถยนต์ออกไปทำธุระในตัวเมืองลำพูน และแล้วก็มีคนแก่ขับรถมอเตอร์ไซค์ตัดหน้า จึงทำให้รถของเพื่อนพ่อเลี้ยงหนุ่มชนรถลุงคนนั้นอย่างจังครับ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์คิดคว่าลุงคนนั้นคงไม่รอดครับ แต่ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นครับลุงคนนั้นมีรอยถลอกนิดเดียวเองครับ แต่รถลุงคนนั้นเอาไปซ่อมใหม่คงยากที่เอากลับมาใช้ใหม่ครับ เพื่อผมจึงลงรถไปดูลุงคนนั้นปรากฏเห็นว่าลุงท่านแขวนเหรียญเจ้าพ่อกู่ช้างรุ่นแรก อยู่ครับ นี้ก็เป็นอีกเหตุหนึ่งที่ใกล้ตัวผมมากครับ
แชร์ 30035 ดู | 2 ความเห็น

ความเห็น

  • thejeekung
    งามดีครับ ไปขอตุ๊ลุงสักเหรียญน่าจะดีครับ  อิอิ
  • puntanaruk
    4. เรื่องนี้เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2554 โดยเกิดขึ้นกับตัวผมเอง เรื่องมีอยู่ว่าวันนั้นช่วงเย็นๆผมได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปรับเพื่อน พอถึงหน้าปากซอยด้านขวามือผมมีรถจอดบังการมองเห็นรถที่่วื่งมาจากฝั่งขวามือ ผมจึงพยายามเคลื่อนรถออกไปจนถึงกลางเลนส์ที่รถทางขวามือวิ่งมา ในขณะนั้นเลนส์ฝั่งซ้ายมือก็มีรถยนต์วิ่งมายาวเยียดผมไม่สามารถขับรถออกไปได้ รถและตัวผมก็ยังคงขว้างอยู่บนเลนส์ฝั่งหนึ่งขณะนั้นก็มีรถที่ปล่อยไฟเขียวมาจากแยกสันป่าฝ้าย (มาด้วยความเร็วทุกคัน) พอรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วมาถึงจุดที่มองเห็นผม ทันใดนั้นผู้หญิงที่ขับรถมอเตอร์ไซค์มาจึงร้องออกมาว่า......." ช้าง.......".........  ผมหันไปมองจึงเห็นเธอเบรครถกระทันหันแล้วหักหลบออกข้างทางส่วนรถคันอื่นๆที่ตามมาก็เบรคกันหมด พอจังหวะรถเลนส์ซ้ายมือผมว่างผมก็เคลื่อนรถออกข้ามไปยังเลนส์ที่ผมจะไปธุระ พอผ่านเหตุการณ์นั้นไปผมจึงนึกได้ จากคำร้องของผู้หญิงคนนั้นที่ว่า ช้าง เป็นเพราะผมเองจะแขวนสร้อยพระทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน หนึ่งในพระที่ผมแขวนนั้นก็มีเหรียญเจ้าพ่อกู่ช้าง รุ่นแรกด้วยครับ  สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าพ่อกู่ช้างคุ้มครอง