ฟ้อนสาวไหม การฟ้อนที่ผู้ชายเป็นคนต้นคิด?
2010-01-04 14:55 |
ฟ้อนสาวไหม
ลีลาการร่ายรำที่ถ่ายทอดวิถีชีวิต
ของหญิงสาวชาวล้านนา
การร่ายรำของชาวล้านนาเป็นที่ยอมรับกันว่ามีความอ่อนหวานนุ่มนวลในทุกท่วงท่าอากัปกิริยา ประกอบกับดนตรีพื้นเมือง สะล้อ ซอ ซึง ไม่ว่าจะเป็นการฟ้อนเทียน ฟ้อนเงี้ยว ฟ้อนเล็บ นับเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี
การฟ้อนสาวไหม ก็เป็นหนึ่งในการฟ้อนรำที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวล้านนา เป็นการเลียนแบบท่าทางการสาวไหมของหญิงสาว ที่ยามค่ำว่างจากการทำงานในพื้นที่เกษตรก็จะนิยมทอผ้าไหม โดยผู้คิดค้นประดิษฐ์ท่าฟ้อนสาวไหมขึ้นเป็นคนแรกคือพ่อครูกุย สุภาวสิทธิ์ ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านแม่ก๊ะ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งต่อมาพ่อครูกุยได้ถ่ายทอดท่าฟ้อนให้บุตรสาวคือแม่ครูบัวเรียว รัตนมณีพรเป็นผู้สืบทอด
แม่ครูบัวเรียวเล่าถึงประวัติความเป็นมาของการฟ้อนสาวไหมว่าถ่ายทอดมาจากวิถีชีวิตของชาวล้านนา ตั้งแต่การเก็บดอกฝ้าย สาวเส้นฝ้าย เข้าสู่กระบวนการถักทอที่ปราณีตบรรจง จนกลายมาเป็นผืนผ้าในที่สุด
สำหรับชื่อการฟ้อนสาวไหม ยังมีหลายคนเข้าใจว่าประดิษฐ์มาจากการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพื่อการทอผ้าไหม แต่แท้จริงแล้วการฟ้อนสาวไหม มีที่มาจากการทอฝ้าย
สำหรับท่ารำแม่ครูบัวเรียวได้ดัดแปลงลีลาการฟ้อนต่อสู้แบบชายให้เข้ากับบุคลิกของสตรีคือให้อ่อนช้อยและลงจังหวะดนตรีแบบนาฏศิลป์ไทย ซึ่งในแต่ละท่วงท่าก็มีที่มาจากภูมิปัญญาล้านนาดั้งเดิมทั้งสิ้น ส่วนท่ารำปัจจุบันนั้น ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัว
ครูปิ่นรัก พรหมเสน ครูผู้สอนการฟ้อนพื้นเมือง โรงเรียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนาเล่าว่า ท่าฟ้อนสาวไหมสามารถปรับเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับครูผู้สอนจะรังสรรค์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ยังต้องคงไว้คือ การสื่ออารมณ์ของการฟ้อนเพื่อให้เข้าถึงความงดงามของวิถีชีวิตได้อย่างแท้จริง
แม้ว่าการฟ้อนสาวไหมนั้นจะได้ชื่อว่าเป็นการฟ้อนที่ยาก แต่ก็ยังมีคนรุ่นใหม่หลาย ๆ คนให้ความสนใจและเรียนรู้ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานการฟ้อนรำนี้
การฟ้อนสาวไหมนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตชาวล้านนา ที่เรียบง่ายและงดงามแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่อนุชนรุ่นหลังควรอนุรักษ์และสืบทอดต่อไป
-----------------------------------------------------------------
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.fm100cmu.com/blog/Lanna/content.php?id=299
ความเห็น