เข้าระบบ

ชื่อผู้ใช้

รหัสผ่าน

  ล ง ท ะ เ บี ย น  

รัชนี

รัชนี的บล๊อก

รัชนี的主頁 | ดูทั้งหมด

จนกว่า...วินาทีสุดท้ายก่อนที่แม่จะจากเราไ

2010-08-20 15:23
 
 
ลูกกราบแม่ค่ะ



มะลิเรียงพุ่มร้อย....พวงมาลา
หอมกรุ่นกราบบูชา.....แช่มช้อย
เกลียวเกล้าแผ่ระย้า???หอมสุข
สู่แม่ฟากฟ้าคล้อย....หยาดถ้อยแห่งสวรรค์





วันเวลาหมุนครบกำหนดรอบ
ที่แม่มอบชีวิตลิขิตฝัน
เพาะบ่มรักเมตตาขยายพันธุ์
ให้ลูกนั้นได้เกิดกำเนิดมา

แม่ทนเจ็บเหน็บหนาวคราวอุ้มท้อง
แม่ปกป้องประคองครรภ์เติบกล้า
ถนอมลูกผูกจิตจนครบครา
กำเนิดมาเป็นลูกผูกสายใย

แม่ทุกข์ยากบากบั่นสรรค์งานหนัก
ผูกสมัครรักมั่นมิหวั่นไหว
หวงแสนหวงเท่าห่วงดั่งดวงใจ
ที่แม่ให้กับลูกทุกเวลา

พระคุณแม่ประมาณไม่สิ้นสุด
แม้สมมุติแผ่นดินทั่วแหล่งหล้า
เป็นหมึกก้อนละลายในธารา
แทนคุณค่ามิเปรียบมาแทบคุณ

พระคุณแม่นั้นยังมีอยู่มาก
ลูกขอฝากท้องฟ้าได้เกื้อหนุน
ลูกจะสร้างความดีให้การุณ
เพื่อเกื้อหนุนแม่สุขทุกภูมิไป

วาสนาลูกน้อยแสนด้อยค่า
กำเนิดมาหมดสิ้นแทนคุณได้
แม่จากลูกก่อนควรจะลาไกล
ลูกมิได้แทนคุณแม่หนุนมา

ขอฝากฟ้าฝากดินมหาสมุทร
กุศลลูกช่วยฉุดแม่เลิศหล้า
ขอแม่อยู่ภพภูมิเฉิดนภา
ให้แม่มีบุญญาพาร่มเย็น







โอบประคองสองแขนด้วยแสนรัก
สุดจะหักห้ามในหทัยนี้
รักสุดรักดวงใจเธอคนดี
ให้โลกนี้มลายมีคลายรัก

ฉันจะปลูกบานชื่นรับวันใหม่
ให้เธอได้ชื่นในซับใจฉัน
พร้อมจะร้อยมะลิช่อลาวัณย์
คล้องกำนัลก้มกราบสดับความ

ในฤดูวารวันแห่งความรัก
แจ้งกำกับเธอรับใจหวาบหวาม
รักของฉันคงอยู่ทุกโมงยาม
สดับความไขแสงแจงฟ้าดิน

ทุกอณูเนื้อความท่ามบอกกล่าว
แม้ว่าเราจำพรากคนละถิ่น
แต่ทรงจำเนื้อความในห้วงจินต์
สุดถวิลโหยหานิทราครั้ง

มัจจุราชพรากเธอไปไกลแสน
สุดอาลัยหวงแหนอย่างสิ้นหวัง
ยืนอยู่ได้ใจสู้กู้พลัง
แม้สิ้นหวังเดียวดายก็หมายทน

มือทั้งสองเธอกรองเฝ้าเห่กล่อม
คุ้มประคองเคียงข้างทางทุกหน
ไออกอุ่นโอบอ้อมยามร้อนรน
บันดาลดนหนาวคลายยามค่ำคืน

เธอสดับรับความท่ามฟากฟ้า
น้อมกายาก้มกราบพนาผืน
แผ่นดินทองรองรับรักยั่งยืน
ทุกค่ำคืนจิตแนบตลอดกาล

พระคุณแม่เลิศฟ้ามหาสมุทร
พระคุณแม่สูงสุดมหาศาล
พระคุณแม่เลิศกว่าสุธาธาร
ใครเปรียบปานแม่ฉันนั้นอย่าหมาย

รักอะไรไม่แท้เท่าแม่รัก
ผูกสมัครสายเลือดไม่เหือดหาย
อันรักอื่นประจักษ์ว่ารักคลาย
จืดจางง่ายไม่จีรังดั่งมารดา

แม้สิ้นร่างมิห่างย่างกายใกล้
ยังห่วงใยลูกน้อยคอยเมียงหา
เป็นวิญญาณเวียนวนเฝ้าลูกยา
ปรารถนาลูกนี้มีอุ่นไอ








บทความนี้เขียนจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า เป็นความรู้สึกที่ยากจะลืม ข้าพเจ้าไม่คิดเลยว่าแม่ผู้อันเป็นที่เคารพรักของลูกจะรีบด่วนจากไปอย่างไม่มีวันกลับ...ลูกขอนำเอาเรื่องราวของแม่มาให้หลายๆคนได้อ่านเพื่อเป็นการระลึกเตือนอนาคตว่าทุกคนต้องพบเจอสภาพการณ์เช่นนี้ทุกคน วันนั้นจำได้ว่า.......เช้าวันอาทิตย์แม่อาการทรุดหนักมาก เรารีบพาแม่ไปหาหมอที่อุบลฯทั้งๆที่วันนี้ที่โรงเรียนเตรียมจัดงานนิทรรศการเพื่อนๆที่ทำงานช่วยกันจัดโต๊ะงาน แต่เรากลับไม่ได้ไปช่วยบางคนก็เข้าใจเรา แต่บางคนก็แสดงออกไม่พอใจที่เราไม่ได้ไปช่วย ซึ่งทั้งๆที่เขาไม่รู้เหตุผลที่เราไม่ได้ไป รู้สึกแย่มาก ไหนจะห่วงแม่ไหนจะทำใจลำบากกับเพื่อนร่วมงาน...หลังจากกลับจากอุบลฯ เราป้อนข้าวแม่วันนี้แม่ไม่เหมือนเดิมแม่เคี้ยวข้าวไม่ได้ ใช้หลอดดูดนมกล่องไม่ได้ อะไรแม่ก็ไม่เอาเราเครียดมาก ไม่รู้จะทำยังไงดี จนกระทั่งให้ยาแล้วแม่ก็หลับไป...........................

วันจันทร์ที่23 พฤศจิกายน 2552 เวลาประมาณบ่าย2โมงรถพยาบาลมารับแม่ไปโรงพยาบาลอย่างรีบด่วนเพราะตั้งแต่เช้าปลุกแม่ยังไงๆก็ไม่ยอมตื่น พอถึงโรงพยาบาลหมอรีบตรวจวัดเช็คน้ำตาลในเลือด วัดความดัน ปรากฏว่าน้ำตาลในเลือดแม่สูงมาก ความดันสูงปรี๊ด ร่างกายอ่อนเพลียขาดเกลือแร่ เรากระวนกระวายใจไม่รู้จะทำยังไงดี หากจะพาแม่ไปโรงพยาบาลใหญ่ๆกว่านี้ต้องเป็นตัวเมืองก็ไม่มีใครดูแลพ่ออีก จึงตัดสินใจรักษาแม่ที่โรงพยาบาลนี้ เราขอพยาบาลอยู่ห้องพิเศษเพราะด้วยเหตุผลหลายอย่าง หลังตรวจเช็คเอกซเรย์แม่แล้ว พยาบาลก็ให้เกลือแร่ ให้น้ำเกลือตัวแม่เองก็ทุรนทุรายจะดึงสายน้ำเกลือออก เราต้องคอยจับมือแม่ไว้ จนแม่หลับไป

วันอังคารที่24 พฤศจิกายน 2552 อาการป่วยของแม่ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะดีขึ้นเลย กลับกระวนกระวายผุดลุกผุดนั่ง ตลอดเวลา พอนอนลงก็นอนกลิ้งทุรนทุรายหมุนหน้าหมุนหลังบนเตียงพยาบาล บ่อยครั้งที่ แม่จะชอบพูดว่า แม่ไม่ไหวแล้ว อายุคงจะมาแค่นี้ เราก็ได้แต่ปลอบแม่ว่าไม่เป็นไรหรอกเราอยู่กับหมอนะแม่ วันนี้แม่นอนส่ายหัวไปมาซ้ายทีขวาที เงียบไม่พูดอะไรอีกเลย จนดึกแม่ก็ไม่นอนอาการยังคงเหมือนเดิม

วันพุธที่25 พฤศจิกายน 2552 ช่วงเช้าอาการกระสับกระส่ายแม่ยังเหมือนเดิม พอช่วงบ่ายอาการแม่เหมือนเสลดติดคอ คล้ายคนเป็นหวัด มีเสลดออกทางปากและเหมือนน้ำมูกออกทางจมูก เราเองก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ตกใจ จนตั้งสติได้ก็ใช้ทิชชูซับๆเช็ด สิ่งที่เกิดกับแม่ออกมาจนเต็มกระโถน ถึงตอนนี้ดูแม่เหนื่อยมากๆ สักพัก แม่ยกมือซ้ายที่พอมีแรงบ้างพร้อมกับเรียกพ่อเรา ?ตา? ?ตา? ?เก็บของนะ? แล้วแม่ก็นิ่งไปไม่พูดอะไรอีก แต่ยังหายใจเป็นปกติพยาบาลเช็ค หัวใจกับปอดแม่ยังแข็งแรงดี พอถึงเวลากลางคืนเราหลับไป แม่มาเข้าฝันเราในฝันแม่ลุกเดินจากเตียงไป เราดีใจมากตะโกนเรียก แม่แม่เดินได้แล้ว แม่ จะไปไหน?..แม่ไม่ตอบได้แต่ยิ้มอย่างเดียว แล้วก็เดินลับไป ขณะนั้นเองหูเราได้ยินเต็มๆเป็นเสียงที่คุ้นเคยมาก นั่นก็คือเสียงแม่นั่นเอง เสียงแม่ตะโกนลั่นว่า (ภาษาอีสาน) เหมิด..เหมิด?เหมิ๊ด!!!! ดังๆๆๆดังขึ้นเรื่อยๆจนเราสะดุ้งตื่นขึ้นมา มองดูนาฬิกา เป็นเวลาตี 3 เอ๊ะ!มองดูแม่ก็ยังนอนปกตินี่นา แล้วเสียงใครล่ะ แต่มันก็เป็นเสียงแม่เราจริงๆเราจำได้ แล้วเราก็หลับต่อจนสว่าง

วันพฤหัสบดี ที่ 26 พฤศจิกายน 2552 ตื่นเช้ามาวันนี้เหมือนกับว่าแม่เราเป็นคนใหม่ไปแล้ว แม่ไม่ยอมลืมตา ไม่ขยับไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น เหมือนหุ่นยนต์ที่ยังมีลมหายใจ ใครมาเยี่ยมแม่ แม่ก็ไม่รับรู้ แม่ไม่รำคาญเสียงคนคุยกัน ไม่รำคาญเสียงทีวี เหมือนวันก่อนแล้ว?.อาการนี้แม่ยังคงเป็นมาเรื่อยๆอยู่หลายวัน จนกระทั่ง??..

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคน 2552 แม่พอขยับตัวบ้างนิดๆ แต่ไม่มีปฏิริยาตอบสนองอื่นใดอีก เมื่อมีคนพูดคุยด้วย ยังนิ่งเฉยเหมือนเดิม

วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2552 วันนี้เป็นวันสำคัญของไทยวันหนึ่งนั่นก็คือวันพ่อแห่งชาติ ช่วงกลางวันแม่ก็นิ่งๆเหมือนทุกวันที่ผ่านมา พอช่วงหัวค่ำมีพิธีจุดเทียนชัยวันเฉลิมพระชนม์พรรษาและจุดพลุ เหตุการณ์ที่น่าตกใจและชวนให้คิดก็เกิดขึ้นในช่วงที่จุดพลุเสียงพลุดัง ตู๊มๆๆๆ?ขณะนั้นก็มีเสียงอะไรหล่นดังตุ๊บบบ!!ชนเข้าอย่างแรงที่ประตูหลังห้องคนไข้พิเศษ และเสียงขยับเคลื่อนไหวเหมือนกระพือปีก เราจึงออกไปดูพร้อมกับน้าสิ่งที่เห็นคือนกตัวสีดำขนมันฟูพองเพราะตกใจ น้าบอกว่านกมันตกใจเสียงจุดพลุ เดี๋ยวจะจับไปฝากหลานที่บ้าน เรารีบบอกไปทันที ?อย่าเชียวนะ!! เผื่อว่าเป็นนกผี น่ากลัวจะตาย อะไรไม่รู้ทำให้เราพูดออกไปเช่นนั้น เพราะลักษณะนกมีหงอนที่หัวเป็นแผงดำ ตัวโตพอๆกับนกเอี้ยง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นนกอะไร แล้วน้าก็ปล่อยนกไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นลางร้ายหรือเปล่า? เราจ้องที่ใบหน้าแม่ที่นอนหลับตาไม่รับรู้เรื่องราวใดที่เกิดขึ้นเลย ลมหายใจแผ่วๆเหมือนแม่เหนื่อยมาก 13 วันผ่านมาที่แม่ไม่ได้กินอะไรเลย ได้แต่บอกแม่ว่า แม่จ๋าวันนี้วันพ่อนะ ลูกไม่อยากให้อะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นในวันนี้นะแม่ ลูกได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้เป็นวันรำลึกสำหรับลูกเลยที่จะสูญเสียแม่ในวันพ่อ..เหมือนแม่จะรับรู้ดูจากการหายใจแม่ยังยืดไปพ้นวันยันสว่างวันใหม่

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม 2552 ใจคอเราไม่ค่อยดีนัก คิดมากกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นแปลกๆ จากที่ฝันก็ดีหรือเรื่องนกก็ดีในใจได้แต่ภาวนาให้มีปาฏิหาริย์ให้แม่หายจากอาการป่วย ให้แม่ลืมตา มากินข้าวกินนม กินน้ำได้เหมือนเมื่อก่อน ลูกจะไม่ขี้เกียจป้อนแม่เลยแม้แต่น้อย อีกใจหนึ่งก็นึกถึงคำพูดชาวบ้านว่าคนเราเกิดวันไหน ก็มักจะไปวันนั้น พรุ่งนี้แล้วสินะ วันจันทร์ซึ่งเป็นวันที่ตรงกับวันเกิดแม่ ใจเริ่มสับสนไหวหวั่น ไม่เป็นอันกินอันนอน แต่ด้วยความอ่อนเพลีย สักพักใหญ่ๆเราก็หลับไป จนกระทั่งเวลาประมาณตีสองเราฝันหรือได้ยินจริงๆกันแน่เพราะเราได้ยินเสียงเด็กวัยรุ่นผู้หญิง ร้องไห้คร่ำครวญเหมือนสูญเสียอะไรสักอย่าง ฟังไปฟังมาเป็นเสียงโหยหวนร้องเรียก ยายยย?ยายยย?ยายย เสียงแผ่วๆเบาๆก้องกังวาน จนเราอดที่จะลืมตาไม่ได้ทั้งๆที่ง่วงมาก แล้วเราก็เผยอเปลือกตาชำเลืองมองไปที่เตียงคนไข้เห็นพยาบาลกำลังพลิกตัวเปลี่ยนท่านอนให้แม่ แต่ เอ๊ะ!! เสียงนั้นยังได้ยินอยู่นิ ก็นั่นหมายความว่าเราไม่ได้ฝันละสิ เอาละไม่เป็นไรพรุ่งนี้ค่อยถามข้างห้องก็ได้เผื่อว่ายายเขาป่วยหนัก แล้วลูกหลานเขาคงร้องไห้ก็เป็นได้ นี่คือเราคิดเอง?. จากนั้นเราก็นอนไม่หลับได้แต่เฝ้ามองดูการหายใจของแม่รู้สึกว่าการหายใจเริ่มเปลี่ยนไปจากก่อนหน้านั้น แม่เริ่มหายใจแผ่วลงมาก จะมีแรงกระเพื่อมหายใจอยู่ที่เนินอก นานๆจะเฮือกสักครั้ง ทั้งคืนแม่ก็หายใจอย่างนี้ จะมีช่วงประมาณตี5 แม่หายใจแรงๆครั้งหนึ่งเหมือนถอนหายใจ และมีเสียงออกมาคล้ายคนเหนื่อยมาก..เฮ้อออ..เอออ..ฟังดูบางทีก็คล้ายคนละเมอเพ้อเสียงออกมา ตอนเช้าแฟนเราที่มานอนเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลด้วยกัน หน้าตาตื่นมาเล่าความฝันให้ฟังบอกว่าเมื่อคืนนี้ แม่มาเข้าฝันนะให้เปิดประตูห้องโรงพยาบาลให้ที แถมบอกว่าอยู่ที่นี่ไม่ได้กินอะไรจะกลับบ้าน เชื่อไหมว่าฝันนี้ไปบังเอิญกับพ่อที่บ้านฝันเช่นกันว่า เมื่อคืนนี้แม่มาที่นี่ บอกจะกลับบ้านแล้ว อยู่ที่โรงพยาบาลไม่ได้กินข้าวกินน้ำ?.ฟังแล้วเราถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก...จะเกิดอะไรขึ้นนะใจคอเราชักไม่ค่อยดีแล้ว...แม่จ๋าลูกภาวนาให้แม่อยู่กับลูกนานๆอย่าเพิ่งจากลูกไปไหนนะแม่....

วันจันทร์ 7 ธันวาคม 2552 จากสิ่งแปลกๆที่ได้ยินเมื่อคืนนี้ เรารีบไปถามข้างห้องว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ถึงได้ร้องไห้คร่ำครวญโหยหวนอย่างนั้น คำตอบที่ได้รับ ทำให้เราต้องอึ้งและงง เล่นเอาขนลุกซู่ เพราะเขาบอกว่าเมื่อคืนหลับสบาย ไม่มีใครร้องไห้ และยายเขาก็หลับสบายไม่มีใครร้องไห้เลย เอาละสิ เจอ อะไรอีกแล้ว ..เราก็เลยเดินกลับห้องคนไข้พิเศษ ห้องที่แม่นอนอยู่ไม่รู้เรื่องราวอะไรกับเขาเลย ด้วยอาการที่ยังงงๆอยู่ เลยเล่าให้น้าที่เฝ้าไข้ด้วยกันฟังเขาก็ว่าเราเองหูฝาด เอาน่ะ..! ฝาดก็ฝาดให้จบๆไป แต่หารู้ไม่ว่าในใจเรามันยังค้างคาเรื่องนี้อยู่ เรากินข้าวเช้ากับน้าที่ระเบียง หน้าห้องคนไข้พิเศษ พอกินอิ่มเสร็จเราก็เดินเข้าไปข้างๆเตียงคนไข้ที่แม่นอนอยู่ด้วยอาการที่หลับนิ่งหายใจแผ่วเบา นานๆจะเฮือกมาที เหมือนคนกำลังจะจมน้ำ เราพูดดังๆขึ้นว่าแม่!!..วันนี้กลับบ้านเรานะ เสียงแม่ตอบรับมาทันทีว่า เอ้อ! เล่นเอาเรางงๆๆๆที่สุด อะไรกันอีกเนี่ย ในเมื่อแม่พูดไม่ได้ทำไมตอบคำชวนเราได้ทันทีทันควัน ได้แต่บอกตัวเองว่าเป็นไปไม่ได้ แล้วมันคืออะไรอีกล่ะแปลกมากๆ แล้วเราก็พูดกับแม่อีกว่าแม่หนูจะไปโรงเรียนสักประเดี๋ยว นะไปส่งข้อสอบเดี๋ยวมา เรากลับจากโรงเรียนมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งช่วงเวลา11.35.คราวนี้เราก็บ่นกับน้าเรื่องลูกๆที่จะมาเยี่ยมยาย บริษัทเขาให้ลาแบบมีหลักฐานหากว่ามางานศพนั่นก็หมายถึงต้องมีใบมรณบัตร อ้างอิงประกอบการลา เราก็พูดไปเรื่อยเปื่อยเรื่องอาการแม่บ้าง เรื่องลูกบ้าง จนกระทั่งพูดวนมาเรื่องใบมรณบัตรอีกครั้ง ทันใดนั้นเอง แม่ก็เกิดอาการเกร็งที่แขนขวาใบหน้าเหมือนคนกลั้นลมหายใจ ใบหน้าคล้ำดำ สักประเดี๋ยว มือแม่ที่เกร็งก็คลายลง ใบหน้าที่ดำคล้ำก็สีจางลง กลายเป็นซีดและแน่นิ่งไปเลย?น้าๆ แม่ไม่หายใจแล้วทำไงดี!! เราตะโกนดังลั่น น้ารีบวิ่งมาดูแล้ววิ่งกระหืดกระหอบไปบอกพยาบาลมาดูอาการ พยาบาลจะพยายามช่วยปั๊มหัวใจ เราเลยห้ามไว้ไม่ต้องปั๊ม ถึงแม้แม่จะกลับมาหายใจอีกครั้ง นั่นก็ใช่ว่าแม่จะหายเป็นปกติเหมือนเดิมได้ เราจึงได้แต่ร้องไห้พร้อมกับมองหน้าแม่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะไม่มีแม่ให้เราได้มองอีกแล้ว แม่หมดเวรหมดกรรม แม่ไปสบายแล้ว ขอให้ไปสวรรค์นะแม่นะอย่าได้ห่วงคนอยู่หลังเลย เป็นครั้งแรกในชีวิตเราที่ได้สัมผัสความเป็นจริงของวาระสุดท้ายของคน ที่ทุกคนจะต้องไปเหมือนกันหมดไม่มีใครหลีกพ้น?แม่จ๋าขอวิญญาณแม่จงไปสู่สรวงสวรรค์ หากชาติหน้ามีจริงแม่ลูกคงได้พบกันอีก......รักแม่ที่สุดในโลกค่ะ....

คลิกฟังเพลง กล่อมแม่ http://www.youtube.com/watch?v=O7NrEyzsOkU

แชร์ 2429 ดู | 2 ความเห็น

Footprints

ความเห็น

  • thejar
    thejar 2010-08-23 07:47
    เรื่องนี้เคยเกิดกับเราตอนวันที่30กย2553  ที่ผ่านมานี้เอง  เป็นพ่อน้าแต่ถึงแม้ท่านจะเป็นแค่พ่อน้า..ท่านก็เลี้ยงดูเรากับพี่น้องมานานหลายสิบปี..ไม่เคยดุด่าว่ากล่าวทุบตี..ท่านรักพวกเรามากและพวกเราก็รักท่านมากเช่นกัน..ขอให้บุญกุศลนำท่านไปสู่สุคติด้วยเทอญ..รักพ่อมากครับ
  • sano
    sano 2010-08-24 20:56
    เราเห็นแค่ตอนพ่อโดนปั้มหัวใจ...แค่นี้เราก้อเข่าอ่อนแร้ววว
    ส่วนแม่...ตอนอยู่ รพ เราดูแลคนเดียว...เป็นปีเหมือนกันนะกว่าจะทำใจได้