เข้าระบบ

ชื่อผู้ใช้

รหัสผ่าน

  ล ง ท ะ เ บี ย น  

thejeekung

thejeekung的บล๊อก

thejeekung的主頁 | ดูทั้งหมด

วัดปงสนุก วัดเก่าแก่น่าเที่ยวในลำปาง

2011-02-24 01:10
 
 

วัดปงสนุก

"วัดปงสนุก" แห่งเขลางค์นคร ธรรมสถานหนึ่งเดียวของไทย ที่พึ่งได้รับรางวัล ?Award of Merit? 
จาก UNESCO ในปี 2008 เผยเส้นทางการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม-สถาปัตยกรรมเก่าแก่ 
ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศ จากชุมชน-รัฐ 

วัดปงสนุก มีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อ ได้แก่ วัดศรีจอมไคล วัดเชียงภูมิ วัดพะเยา ตามลำดับ 
ส่วนคำว่า "วัดปงสนุก" นั้นใช้เมื่อยุค เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง ที่มีการกวาดต้อนผู้คน จากเชียงแสน 
สันนิษฐานว่า เป็นกลุ่มคนจากบ้านปงสนุกที่เชียงแสน 
(ปัจจุบันยังปรากฏ หลักฐานวัดปงสนุกอยู่ที่ริมแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย) 


วัดปงสนุกได้รับการสันนิษฐานว่า เคยเป็นศูนย์กลางเมืองนคร (หรือเวียงละกอน) สมัยล้านนารุ่งเรือง 
และมีบทบาทสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ เช่น การดำน้ำชิงเมือง ระหว่างเจ้าฟ้าชายแก้ว และท้าวลิ้นก่าน 
และในยุครัตนโกสินทร์ที่แห่งนี้ ยังเคยเป็นที่ตั้งของ เสาหลักเมืองหลักแรกของเมืองนครลำปาง 
ก่อนจะทำการย้ายไปรวมกับเสาหลักเมือง หลักอื่นที่ ศาลหลักเมืองในปัจจุบัน 

วัดปงสนุกเป็นแหล่งรวมของสิ่งสำคัญหลายอย่างที่ทรงคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม มากมาย 
อาทิ พระพุทธรูปไม้ เสาหงส์ ซุ้มประตูโขง ภาพพระบฎ เขียนเรื่องพระเวสสันดรบนผ้าและกระดาษสา 
หีบธรรมโบราณ และธงช้างเผือกขนาดใหญ่ ในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งทางวัดได้นำมารวมไว้เป็นพิพิธภัณฑ์
งานศิลปสถาปัตยกรรมที่สำคัญ อันปรากฏอยู่ที่วัดนี้ได้แก่ พระธาตุศรีจอมไคล และวิหารพระเจ้าพันองค์ 
ซึ่งในอาคารหลัง จะได้รับการบูรณะอย่างถูกหลักวิชาการ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านปงสนุก

ข้อมูลจาก  http://www.lampang.go.th/travel/data/placetour/maung.htm
----------------------------------------------------

วัดไทยสร้างชื่อก้องโลกในครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ย. นางศรีวิการ์ เมฆธวัชชัยกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 
ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม สหประชาชาติ เปิดเผยว่า 
สำนักงานองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) กรุงเทพฯ ได้มอบประกาศนียบัตร
รางวัลการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำปี 2551 ให้กับวัดปงสนุกเหนือ อ.เมืองลำปาง
โดยรางวัลนี้ยกย่องบุคคลและองค์กรภาคเอกชนหรือโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐในการบูรณปฏิสังขรณ์อาคาร
และสิ่งก่อสร้าง ที่เป็นมรดกอันทรงคุณค่า 

นางศรีวิการ์กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการอนุรักษ์วัดปงสนุกเหนือเป็นต้นแบบที่นำโดยคนในชุมชน มีการฟื้นฟูองค์ความรู้
ทางด้านสถาปัตยกรรมโบราณและเทคนิค การตกแต่งแบบดั้งเดิม ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยวัดปงสนุกเหนือ
ได้รับรางวัลดังกล่าวในระดับดี (Awards of Merit) ทั้งนี้ สำหรับรางวัล Award of Merit ที่วัดปงสนุกเหนือได้รับในครั้งนี้ 
ถือเป็นวัดแรกของประเทศ ไทย ที่ได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม จากองค์การยูเนสโก จากที่มีประเทศต่างๆ 
รวม 13 ประเทศ ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ส่งโครงการเข้าร่วมประกวด รวม 45 โครงการ 

ซึ่งจากการตัดสินผู้ที่ได้รับรางวัลระดับ ดีมี 3 รางวัล คือ 
Vysial Street (เมืองพอนดิเซอร์รี่ ประเทศอินเดีย) 
Shigar Historic Settlements and Bazaar Area (เขตทางเหนือ ประเทศปากีสถาน) 
และ วัดปงสนุกเหนือ (อ.เมืองลำปาง ประเทศไทย) 

รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า สำหรับ วัดปงสนุก สันนิษฐานว่าสร้างมานานกว่า 1,300 ปี มีศิลปกรรม
และสถาปัตยกรรมที่อยู่ในวัดเป็นจำนวนมาก เช่น เจดีย์ วิหาร พระนอน วิหารพระเจ้าพันองค์ วิหารโถงจตุรมุข 
ภาพพระบฏ เขียนเรื่องพระเวสสันดรบนผ้าและกระดาษสา พิพิธภัณฑ์หีบธรรมรัตนานุรักษ์อนุสรณ์ 
ตลอดจนเป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมประเพณี โดยมีการร่วมมือจากหลายฝ่าย ร่วมกันจัดทำโครงการ
อนุรักษ์วัดปงสนุก ทำให้ได้รับรางวัลดังกล่าว นอกจากนี้ ชุมชนคลองอัมพวา จ.สมุทรสงคราม 
และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จ.ฉะเชิงเทรา ยังได้รับการอนุรักษ์ มรดกทางด้านวัฒนธรรมใน
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แห่งองค์การยูเนสโก ประจำปี 2551 ในระดับชมเชยด้วย 

ด้าน พระครูโสภิตขันตยากรณ์ เจ้าอาวาสวัดปงสนุกเหนือ เปิดเผยว่า สำหรับรางวัลที่ทางยูเนสโกมอบให้กับทางวัด 
สืบเนื่องมาจากทางวัดปงสนุกเหนือซึ่งเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลำปางมากว่า 1,000 ปี ได้ปรับปรุงวิหารพระเจ้าพันองค์ 
ซึ่งเป็นพระวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์เล็กรวมมุข 4 ด้าน มีมากถึง 1,000 องค์ ใน อดีตพม่าเข้ามามีอิทธิพล
ในเมืองลำปาง สมัยเจ้าอนันตยศน์ ได้ถูกลักลอบแกะเอาพระพุทธรูปออกไปหลายองค์ แต่ทางวัดได้นำพระพุทธรูป
มาประดิษฐานเพิ่มเติมจนครบ 1,000 องค์ การได้รับรางวัลครั้งนี้นับเป็นประวัติศาสตร์ ของเมืองลำปาง 
เพราะการประกวดชิงรางวัลเป็นไปอย่างเข้มข้น 

นอกเหนือจากการสนับสนุนกลุ่มผู้มีส่วนร่วมในการคุ้มครองวัดแล้ว? โครงการอนุรักษ์ยังได้สร้างความเชื่อมั่นว่า
วัดปงสนุกเหนือเป็นส่วนสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมของเมืองลำปางไปอีกนานแสนนาน ขณะที่นายกิตติกร โล่ห์สุนทร 
ส.ส.ลำปาง ซึ่งมาชมวิหารพระเจ้าพันองค์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจของคนลำปาง รวมทั้งพุทธศาสนิกชนทั่วไป
ที่ได้ร่วมกันบูรณะรักษาวัฒน-ธรรม เพื่อเป็นมรดกให้ลูกหลานได้ศึกษาต่อไป 

ส่วน นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง กล่าวว่า โครงการที่ทำให้วัดปงสนุกเหนือ
ได้รับรางวัล คือ โครงการอนุรักษ์มรดกทางศิลปกรรม สถาปัตยกรรมวิหารพระเจ้าพันองค์ ที่เริ่มตั้งแต่ ปี 2548 
มีหลายฝ่ายเข้ามาให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะคนในชุมชน ตลอดเวลาการทำงานกว่า 4 ปีที่ผ่านมา 
ทำให้ เกิดกระแสการตื่นตัวในการอนุรักษ์โบราณสถาน สถาปัตยกรรม ในคณะสงฆ์ และชุมชน 
เป็นเหตุผลที่ทางยูเนสโกคัดเลือกวัดปงสนุกเหนือให้ได้รับรางวัลครั้งนี้

ข้อมูลจาก
http://www.lampang108.com/wb/read.php?tid-135-page-1.html#234

------------------------------------------------------------------------------------

ลำปาง ? เปิดตำนาน ?วัดปงสนุก? แห่งเขลางค์นคร 
ธรรมสถานหนึ่งเดียวของไทย ที่พึ่งได้รับรางวัล ?Award of Merit? 
จาก UNESCO ในปี 2008 
เผยเส้นทางการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม-สถาปัตยกรรมเก่าแก่ 
ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศ จากชุมชน-รัฐ
       

วัดปงสนุก หรือวัดปงสนุกเหนือ ตั้งอยู่ในเขต ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นวัดสำคัญคู่กับจังหวัดลำปาง
มาช้านาน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย (ลำพูน) 
เสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ.1223 หรือ 1,328 ปีก่อน ซึ่งเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา 
พระครูโสภิตขันตยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปงสนุกด้านเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง พึ่งรับมอบรางวัลดี (Award of Merit) 
ด้านการอนุรักษ์มรดกทางด้านวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตามโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage 
Award for Cultural Heritage Conservation จากองค์การ UNESCO โดยมี ดร. ริชาร์ด อิงเกิลฮาร์ท? 
ที่ปรึกษาอาวุโสในผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ด้านวัฒนธรรมประจำองค์การยูเนสโก เป็นผู้ถวายรางวัล
       
ลุงมานพ คันธวิสูตร มรรคนายกวัดปงสนุกเหนือ เล่าให้ฟังว่า แม้ตนจะไม่ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตในอดีตมายาวนานกับวัดแห่งนี้ 
แต่ก็ได้รับการบอกเล่าจากพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ได้ศึกษาค้นคว้าจากตำรับตำราโบราณ เช่น จากใบลาน และอื่นๆ 
จนทราบถึงความเป็นมาของวัดแห่งนี้ว่า เดิมวัดปงสนุกมีชื่อเรียกถึง 4 ชื่อ ได้แก่ 
วัดศรีจอมไคล-วัดเชียงภูมิ-วัดดอนแก้ว?วัดพะยาว
       
จากประวัติศาสตร์พบว่า เป็นชื่อที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การอพยพผู้คนในเหตุการณ์ช่วงปี พ.ศ.2346 
ที่พญากาวิละได้ยกทัพเข้าโจมตีเมืองเชียงแสน ซึ่งเป็นที่ตั้งมั่นของพม่า และได้กวาดต้อนชาวเชียงแสนซึ่ง
เป็นชาวบ้านบ้านปงสนุกมาตั้งถิ่นฐานที่ลำปาง รวมถึงการอพยพของคนเมืองพะยาวที่หนีศึกพม่าลงมายังลำปาง 
ชาวปงสนุกเชียงแสน และชาวพะยาว จึงได้ ตั้งบ้านเรือนจนกลายเป็นหมู่บ้าน
       
 ราว พ.ศ.2386 เจ้าหลวงมหาวงศ์ได้ไปฟื้นฟูเมืองพะเยาขึ้นใหม่ ครูบาอินทจักรพระอุปัชฌาย์ของ
ครูบาอาโนชัยธรรมจินดามุนี ได้นำชาวพะยาว (พะเยา) อพยพกลับ แต่ก็ยังคงเหลืออีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ยอมกลับ 
และได้มาตั้งรกรากอยู่กับชาวบ้านปงสนุก ตั้งแต่นั้นมาชื่อวัดและหมู่บ้านจึงเหลือเพียง ?ปงสนุก? เพียงชื่อเดียว
       
ต่อมา จึงได้มีการแบ่งวัดเป็นวัดปงสนุกด้านเหนือและวัดปงสนุกด้านใต้ เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2429 
ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ โดยเริ่มจากการซ่อมพระเจดีย์ สร้างฉัตร ก่อซุ้มประตูโขง วิหารหลังมียอด 
หรือวิหารพระเจ้าพันองค์ หรือวิหาร 12 ราศี หรือวิหารสะเดาะเคราะห์ เนื่องจากในสมัยก่อนทั้งเจ้านายชั้นสูง
และประชาชนทั่วไป เมื่อมีเคราะห์ ต่างก็จะพากันมาสะเดาะเคราะห์ ณ วิหารแห่งนี้ทั้งสิ้น
       
 นอกจากนี้ยังพบว่า วัดปงสนุก เป็นสถานที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองเสาแรกของลำปาง 
ก่อนจะนำไปประดิษฐาน ณ บริเวณศาลากลาง(หลังเก่า) ในปัจจุบันด้วย
       
ด้านนายอนุกูล ศิริพันธุ์ สมาชิกเทศบาลนครลำปางและประธานชุมชนบ้านปงสนุกเหนือ เล่าถึงแรงบันดาลใจ
ของชุมชนที่ต้องออกมาบูรณะเจดีย์และวิหารพระเจ้าพันองค์ ว่า เนื่องจากพระเจดีย์ มีอายุเก่าแก่เท่าๆกับดอยสุเทพ 
ที่จังหวัดเชียงใหม่ คือกว่า 500 ปี วิหารพระเจ้าพันองค์ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่รวบรวมไว้ทั้งงานด้านจิตรกรรม 
สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทย จีน พม่า ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวของประเทศก็ว่าได้ เริ่มทรุดโทรมลงตามกาลเวลา 
ประกอบกับช่วงปี พ.ศ.2548 มีนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติ คนไทย และกลุ่มนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ 
เข้ามาค้นคว้าหาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของวัดจำนวนมาก ทำให้ทางวัดปงสนุกได้ตัดสินใจส่งเรื่องให้
กรมศิลปากรพิจารณา เพื่อจัดทำโครงการอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมวิหารพระเจ้าพันองค์ 
ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
       
 โดยตลอดเวลา 4 ปี ที่ได้ร่วมกันบูรณะ ทางชุมชนฯได้ใช้กิจกรรมด้านศาสนา เป็นตัวชูโรง เพื่อให้ได้ทั้งพลังชุมชน
และปัจจัยที่ได้มาในการบูรณะดังกล่าว จนส่งผลให้เกิดกระแสการตื่นตัวในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในลำปางขึ้น 
อย่างกว้างขวางจนถึงขณะนี้
       
 ปัจจุบัน ?วัดปงสนุก? ได้กลายเป็นแหล่งรวมของสิ่งสำคัญหลายอย่างที่ทรงคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรม 
สถาปัตยกรรม มากมาย อาทิ พระพุทธรูปไม้ เสาหงส์ ซุ้มประตูโขง ภาพพระบฎ เขียนเรื่องพระเวนสันดรบนผ้า
และกระดาษสา หีบธรรมโบราณ และธงช้างเผือกขนาดใหญ่ในสมัยรัชกาลที่6 ซึ่งทางวัดได้นำมารวมไว้เป็นพิพิธภัณฑ์
       
       
นอกจากนี้ยังมีเจดีย์วิหารพระนอน วิหารพระเจ้าพันองค์ วิหารโถงทรงจัตุรมุขที่มีรูปแบบงดงาม ซึ่งเป็น
สถาปัตยกรรมระหว่าง ลานนาไทย พม่า และจีน ที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวของไทย ที่อาคารหลายแห่งในประเทศ 
เช่น หอคำไร่แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้นำไปเป็นแม่แบบในการก่อสร้างในปัจจุบัน
       
ส่วนจุดเด่นของการได้รับรางวัล ด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม จากยูเนสโก ในครั้งนี้นั้นนายอนุกุล กล่าวว่า 
น่าจะเป็นเพราะรูปแบบของการบูรณะของทางวัดด้วย เพราะทางกรมศิลปากร ได้ใช้วัถตุเดิมเกือบ 100% 
ในการซ่อมแซม จะมีการเพิ่มเติมสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ไปบ้างบางส่วนที่ไม่กระทบกับองค์ประกอบหลัก 
เช่น การใช้น้ำยากันปลวกอย่างดี การทำชั้นรองกระเบื้อง เพื่อไม่ให้น้ำฝนไหลย้อนกลับและซึมลงมา เป็นต้น
       
เมื่อดูแล้วจะเห็นได้ว่า เป็นการรักษาของเดิมไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้?โครงการอนุรักษ์มรดกทางศิลปกรรม 
สถาปัตยกรรมวิหารพระเจ้าพันองค์? วัดปงสนุกด้านเหนือ ได้รับคัดเลือกจาก 45 โครงการ ใน 13 ประเทศ 
ให้ได้รับรางวัล Award of Merit จากโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage Award for Cultural Heritage Conservation 
จากองค์การ UNESCO

 
      
รางวัลดังกล่าวนับว่าเป็นความภูมิใจอย่างยิ่ง ไม่เพียงเฉพาะแต่ชุมชนปงสนุก ชาวลำปาง หากแต่เป็นความภูมิใจ
ของคนไทยทั่วประเทศ ที่จะร่วมกันอนุรักษ์รักษามรดกทางวัฒนธรรม แห่งนี้ให้อยู่คู่กับประเทศไทยสืบไป
       
สำหรับแนวทางในการอนุรักษ์โบราณสถานแห่งนี้ ในอนาคตนั้นนายอนุกูล บอกว่า ต่อไปก็จะเริ่มดำเนินการ
บูรณะ ซุ้มประตูโขงและบริเวณโดยรอบก่อน เพราะขณะนี้ทรุดโทรมมากเกรงว่าหากปล่อยไว้จะทำให้
รายละเอียดต่างๆหายไป และจะยากในการซ่อมแซมให้เหมือนดังเดิมได้

ข้อมูลจาก  http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000136421
แชร์ 14351 ดู | 0 ความเห็น

Footprints

ความเห็น